เทสโทสเตอโรนมีผลต่อการลดไขมันอย่างไร

Written by:

Wesley Lo

Wesley Lo

Wesley is a health and fitness coach in Hong Kong, with a passion for finding ways to improve health, longevity and athletic performances.

Share:

Share on facebook
Share on twitter
Share on whatsapp
Share on linkedin
Share on telegram

ADVERTISMENT

เราคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเทสโทสเตอโรนกันมาบ้าง แต่มีกี่คนที่เข้าใจว่ามันทำหน้าที่อะไรให้กับร่างกายของเรา โดยเฉพาะในการลดไขมัน มีกี่คนที่พยายามลดแคลอรี่ในอาหาร ไปยิมรัวๆ แต่ก็ยังลดไขมันบนพุงไม่ได้แม้แต่ชั้นตื้นๆ

เหตุผลก็คือ …

โดยหลักๆ แล้ว เทสโทสเตอโรนคือ ฮอร์โมนเพศชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถผลิตเทสโทสเตอโรนได้ในปริมาณต่ำที่รังไข่ เทสโตสเตอร์โรนนี้บางครั้งถูกเรียกว่าเป็นฮอร์โมนยับยั้งความแก่ และมีผลต่อสมอง กระดูก มวลกล้ามเนื้อ การกระจายของไขมัน เนื้อเยื่ออวัยวะเพศ และพฤติกรรมทางเพศ มีการศึกษาพบว่าการขาดเทสโทสเตอโรนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อ การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ในทางกลับกัน ระดับเทสโทสเตอโรนสูงในผู้ชายสัมพันธ์กับอายุที่ยืนยาว

ช่วงค่าระดับเทสโทสเตอโรนที่มีความอ่อนไหวสูงสำหรับผู้ชายอายุ 16-60 ปี อยู่ที่ 10-38 nmol/L. วิธีที่แน่นอนที่สุดในการวัดระดับเทสโทสเตอโรนสำหรับผู้ชายคือการตรวจเลือดระหว่าง 7 โมงเช้าถึงเที่ยงวัน เพราะระดับของเทสโทสเตอโรนจะต่ำลงในช่วงบ่ายและค่ำ ระดับเทสโทสเตอโรนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชายควรอยู่ในช่วงครึ่งบนของช่วงค่าที่กำหนด ยิ่งใกล้ขีดบนมากเท่าไหร่ยิ่งดี หากมีระดับต่ำกว่า 15 อาจชี้ให้เห็นถึงการมีภาวะฮอร์โมนเพศต่ำแบบไม่เห็นอาการ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษา

นอกจากนี้ยังมีฮอร์โมนอีกตัวคือเอสโตรเจน โดยฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้จะทำงานร่วมกันเหมือนหยินกับหญางเพื่อรักษาสมดุลการทำงานในร่างกาย เมื่อระดับเทสโทสเตอโรนสูง ระดับเอสโตรเจนจะต่ำลง และกลับกันด้วย

ฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้มีความสำคัญในเรื่องการสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมัน เมื่อมีค่าเทสโทสเตอโรนสูง เราจะสามารถสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันได้เองโดยไม่ต้องไปยิม แต่เวลาระดับเอสโตรเจนสูงเราจะสูญเสียกล้ามเนื้อและมีไขมันเพิ่มแม้ว่าจะไปยิมถี่ๆ ดังนั้นเราจึงควรรู้ระดับเทสโตสเตอโรนของตัวเอง ถ้าต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ควรมีระดับเทสโทสเตอโรนสูง (เช่น 36 ) ดีกว่าระดับต่ำ (เช่น 12)

มีวิธีเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติหลายวิธีโดยไม่ต้องใช้ยา เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ วิธีออกกำลังกายที่ได้ผล อาหารเสริม นอนหลับสนิท และการจัดการความเครียด น่าเสียดายที่บางคนยังเสี่ยงใช้สเตียรอยด์เพื่อกระตุ้นเทสโทสเตอโรนโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง ผมร่วง เสียการทำงานของตับ ผิวหยาบกระด้าง สิว เป็นลมแดด และอาการซึมเศร้า

ถ้าคุณคอยระมัดระวังเรื่องอาหาร ไปยิม และดูแลหลายสไตล์อย่างเพียงพอแล้ว แต่ยังไม่เห็นผลตามที่ต้องการ อาจจะถึงเวลาแล้วที่ต้องตรวจเลือดเพื่อหาระดับเทสโตสเตอโรนและปรึกษาแพทย์