ในฐานะแพทย์ที่ทำงานเกี่ยวกับสุขภาพของชาวเกย์ และเป็นเกย์คนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับความขัดแย้งในใจ ผมมักถูกถามว่า คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างแท้จริงหรือเปล่า นี่เป็นคำถามหนึ่งที่ผมเคยถามตัวเองเช่นกัน
คำตอบของผม คือ ได้และไม่ได้
เราแต่ละคนมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ บุคลิกตามคำนิยามแล้วมีทั้งส่วนที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและส่วนนิสัยที่เกิดสะสมขึ้นมาทีหลัง นิสัยเหล่านี้อาจฝังลึกจนเราปฏิบัติตัวในสถานการณ์ต่างๆด้วยรูปแบบที่คาดเดาได้
นี่คือสิ่งที่เป็นองค์ประกอบของบุคลิกที่เป็นสไตล์เอกลักษณ์ของเรา ส่วนใหญ่เมื่อบุคลิกหลักของเราคงที่เมื่ออายุราวหกถึงเจ็ดขวบ ก็มักจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่
นักจิตวิทยาส่วนใหญ่นั้นเห็นตรงกันว่า ลักษณะและแนวโน้มภายในของเรานั้นจะฝังติดตัวเราก่อนจะเป็นวัยรุ่น แน่นอนว่าอาจจะเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆ บ้างหลังจากนั้น แต่การปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นโดยพื้นฐานแล้วมักจะตาย ตัวในช่วงก่อนอายุ 17 หรือ 18
การจะเปลี่ยนวิธีคิดหรือการปฏิบัติตัวเองนั้นต้องเริ่มจากจิตใจหรือทัศนคติ การจะเปลี่ยนบุคลิกได้คุณก็ต้องเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองก่อน
หมายความว่ายังไง ก็หมายความว่าคุณต้องเปลี่ยนวิธีรู้สึก จดจำ วิเคราะห์ ตัดสินหรือไม่ตัดสินอะไร เปลี่ยนวิธีการคิด แล้วคุณก็จะทำตัวเปลี่ยนไป คนจะเปลี่ยนไปเมื่อเปลี่ยนความคิดของตัวเอง
ออกนอกเส้นทางเพราะเล่นยา
ต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างจากชีวิตส่วนตัวของผมเอง หลังจากเรียนแพทย์ระยะก่อนคลีนิคครบสามปี ผมตัดสินใจลาพักเรียนแล้วย้ายไปกรุงเทพ เพื่อหาเงินง่ายๆ ด้วยการเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษกับชีววิทยาระดับม.ปลาย เพราะในเมืองไทยติวเตอร์ทำเงินได้มากกว่าหมอจบใหม่เสียอีก
ในช่วงนี้ ผมได้รู้จักกับคนเล่นยากลุ่มหนึ่ง ช่วงแรกผมไม่อยากลอง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ นั่นคือจุดหักเหของเส้นทางชีวิตผม เริ่มจากเล่นใช้ยาเดือนละครั้งก็กลายเป็นอาทิตย์ละครั้งอยู่ช่วงหนึ่ง จากนั้นผมก็ใช้ยาเกือบทุกสุดสัปดาห์ การติดยาในเมืองอย่างกรุงเทพนั้นไม่ยากเย็นอะไรเลย
แต่ผมโชคดีที่ได้ใช้เวลาใคร่ครวญตัวเองอีกครั้ง ถามคำถามยากๆ กับตัวเอง อย่างเช่น ผมอยากเป็นอะไรกันแน่ อะไรที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย และนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมอยากทำให้ตัวเองและคนอื่นๆ หรือเปล่า
เปลี่ยนแปลงในทางบวก
สุดท้าย ใจที่อยากทำประโยชน์ให้โลกก็ชนะ
ผมตัดสินใจกลับไปเรียนต่อและเลิกเล่นยา ผมเรียนแพทย์จบและกลายเป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับคนจำนวนมาก เพราะเวลาที่ทำอย่างนั้น ผมกำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองและยังเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นด้วย
นี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเอง ถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนแปลง คุณต้องพยายามด้วยตัวเอง ต้องต่อสู้อย่างหนัก และคุณต้องเตือนตัวเองให้มุ่งมั่น แต่ในที่สุดเมื่อคุณทำได้ ไม่มีใครที่จะพรากความสำเร็จนั้นไปจากคุณได้
แต่ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนแปลงได้ อย่างแรกคุณต้องเชื่อมั่นและต้องการจะเปลี่ยน เมื่อคุณตระหนักว่าคุณต้องการเปลี่ยนแปลง คุณต้องรู้เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้สักหน่อย รู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อจะเปลี่ยนแปลงมันได้ คุณควรคุยกับครอบครัวและเพื่อนเพื่อปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือถ้าคุณต้องการ
ถ้าคุณไม่มีใครที่จะคุยด้วยหรือเขียนหา ลองเขียนมาหาผมสิ ผมอยากจะพูดคุยกับคุณว่า จะช่วยคุณได้อย่างไรบนเส้นทางของความเปลี่ยนแปลงนี้ อีเมลของผมคือ askdrlove@asia.gay.