การอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการสุขภาพจิตรวมถึงอาการซึมเศร้าได้ ตามสถิติแล้ว อาการซึมเศร้านั้นมีผลต่อ 39% ของผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี
อาการซึมเศร้านั้นอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันและทำให้การทำตามแผนการรักษาเอชไอวีของคุณลำบากมากขึ้น
ถ้าคุณคิดว่ามีอาการซึมเศร้า ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ และปรึกษาเกี่ยวกับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงหรืออาการอื่นๆ
อาการซึมเศร้า
ถ้าคุณมีความรู้สึกซึมหรือมีปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ ทุกวันหรือเกือบทุกวันเป็นเวลาสองสัปดาห์ขึ้นไปอาจหมายความว่าคุณมีอาการซึมเศร้า
อาการซึมเศร้า ได้แก่:
- รู้สึกเศร้าหรืออ้างว้างบ่อยๆ
- รู้สึกหมดหวังหรือมองโลกในแง่ร้าย
- รู้สึกตัวเองไม่มีค่าหรือรู้สึกผิด
- รู้สึกหงุดหงิดหรืออยู่ไม่เป็นสุข
- เลิกสนใจกิจกรรมที่เคยชอบ
- พลังงานลดลงหรือเหนื่อยง่าย
- รูปแบบการนอนหลับเปลี่ยนแปลง
- ความอยากอาหารหรือน้ำหนักเปลี่ยนแปลง
- พูดหรือเคลื่อนไหวช้าลง
- มีปัญหาสมาธิหรือความจำ
- มีปัญหาการเจ็บปวดหรือการย่อยอาหารที่ไม่รู้สาเหตุ
- ความคิดอยากทำร้ายตัวเองหรือพยายามฆ่าตัวตาย
การรักษาเอชไอวีกับการซึมเศร้า
การอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและอาการสุขภาพอื่นๆ เป็นเรื่องท้าทาย แต่นั่นเป็นแค่เหตุผลที่เป็นไปได้อย่างหนึ่งของอาการซึมเศร้า
ยาบางชนิดยังอาจมีส่วนทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ด้วย
การใช้ยาต้านไวรัส (ART) เป็นส่วนสำคัญของการรักษาเอชไอวี และยา ART บางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงทางจิตใจ รวมถึงการซึมเศร้าและวิตกกังวล
หรือถ้าคุณมีอาการทางจิตใจอยู่แล้ว ยา ART บางชนิดอาจทำให้มีอาการมากขึ้นได้
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่ายารักษาอาการซึมเศร้าอาจมีปฏิกิริยากับยา ART บางชนิด
คุณควรบอกแพทย์ว่ากำลังกินยาอะไรอยู่บ้าง และถามเกี่ยวกับอาการข้างเคียงและปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดได้
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ ถ้าคุณคิดว่าอาจได้รับผลข้างเคียงจากยาต้านเอชไอหรืออาการซึมเศร้า อย่าหยุดกินยาที่แพทย์สั่งโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
การรักษาอาการซึมเศร้า
แพทย์อาจใช้วิธีหนึ่งวิธีใดต่อไปนี้หรือหลายวิธีร่วมกันในการรักษาอาการซึมเศร้า:
- วาจาบำบัด
- ยา
- เปลี่ยนไลฟ์สไตล์
ตัวอย่างของยารักษาอาการซึมเศร้า ได้แก่:
- selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) เช่น fluoxetine (Prozac), paroxetine (Paxil), sertraline (Zoloft), หรือ citalopram (Celexa)
- bupropion (Wellbutrin) ที่ใช้ช่วยเลิกบุหรี่ด้วย
- tricyclic antidepressants (TCAs) เช่น imipramine (Tofranil)
จากข้อมูลของ National Institute of Mental Health กว่าที่ยารักษาอาการซึมเศร้าจะมีผลเต็มที่นั้นต้องใช้เวลาสองถึงสี่อาทิตย์
โดยแพทย์จะติดตามดู:
- การเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์
- ผลข้างเคียง
- ปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นกับยา ART
และอาจแนะนำให้คุณเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์
เช่น การออกกำลังกายเป็นประจำอาจช่วยลดความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้น ถ้าคุณไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมาก่อน ควรขอคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย
ถ้าวาจาบำบัด ยา และการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ยังไม่เพียงพอในการลดอาการซึมเศร้า แพทย์อาจสั่งให้ใช้ electroconvulsive therapy (ECT) หรือการรักษาด้วยการกระตุ้นสมองวิธีอื่นๆ
แหล่งให้ความช่วยเหลือ
การรักษาอาการซึมเศร้าสามารถช่วยลดอาการและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้
แพทย์อาจส่งต่อคุณไปปรึกษากับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อการวินิจฉัยและรักษา นักจิตวิทยาทำการรักษาด้วยวาจาบำบัด ส่วนจิตแพทย์อาจสั่งยาให้รับประทาน
แรงสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนยังช่วยคุณรับมือกับอาการซึมเศร้าได้ คุณควรหาคนที่คุณไว้ใจ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณประสบและบอกเค้าว่าจะช่วยคุณได้อย่างไร
ข้อคิด
การซึมเศร้าเป็นอาการด้านจิตใจที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี อาการเศร้าตลอดเวลา เหนื่อย และหมดความสนใจในกิจกรรมโปรด เป็นแค่ส่วนหนึ่งของอาการที่อาจเกิดขึ้นได้
ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ ถ้าคุณคิดว่ากำลังซึมเศร้าหรือมีอาการทางจิตใจอื่นๆ แพทย์อาจแนะนำให้คุณรับการรักษา หรือแนะนำให้คุณปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์
คุณต้องบอกแพทย์ว่ากำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง เพราะยาต้านอาการซึมเศร้าและยา ART บางอย่างอาจมีปฏิกิริยาต่อกัน แล้วแพทย์จะช่วยหาแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณมากที่สุด